PUBG พับจี Brendan Greene ทำความรู้จักบิดาแห่ง PubG ที่สร้างตัวจากการ mod เกมให้โดนใจตัวเองในโลกของสินค้าอื่น ๆ ทั่วไป เมื่อเราใช้สิ่งไหนเป็นประจำ แล้วเกิดไอเดียอยากปรับเปลี่ยนให้มันดีขึ้น หรือตรงใจเรามากขึ้น ก็คงได้แต่เก็บไอเดียนั้นไว้ในใจ นอกจากจะมีทุนทรัพย์และเวลาไปลงทุนผลิตแข่งกับของเดิม ซึ่งก็เป็นเรื่องใหญ่เรื่องเสี่ยงอย่างมากแต่ในยุคดิจิทัล กับสินค้าประเภทเกมหรือซอฟต์แวร์ หลาย ๆ คนสามารถลงมือปรับแต่ง (modify หรือ “mod”) เกมที่ตัวเองชอบเล่นให้กลายเป็นฉบับพิเศษหรือ “รุ่น mod” เฉพาะที่แตกต่างออกไปได้
ซึ่งถึงแม้ mod แล้วจะนำไปขายต่อไม่ได้ แต่ก็สามารถใช้ทดสอบไอเดียใหม่ ๆของเราในตลาดนั้น ๆ หรือใช้เป็นใบเบิกทางสู่การเป็นคนสำคัญในวงการเกม ดังเช่นชีวิตของนาย Brandon Greene “บิดาแห่งเกม PubG”ชื่อเกม PUBG หรือ “พับจี” นี้ ย่อจาก “Player Unknown’s Battlegrounds” กำเนิดในเดือนมีนาคมปี 2017 มีอายุครบ 5 ปีพอดีในเดือนนี้ (มีนาคม 2022) โด่งดังคุ้นหูแม้กับคนที่ไม่เล่นเกม …แต่เรื่องราวการกำเนิดและเส้นทางการกลายเป็นธุรกิจสู่ตลาดโลกนั้นอาจมีหลายคนที่ยังไม่เคยทราบ
PUBG พับจี แรกสร้างโดยนักพัฒนาเกมชาวไอร์แลนด์
PUBG พับจี นั้นแรกเริ่มสร้างโดยนาย Brendan Greene ซึ่งเกิดในปี 1976 (ปัจจุบันอายุ 46 ปี) ในประเทศไอร์แลนด์ แต่เติบโตในค่ายทหารที่เลบานอน ซึ่งพ่อเป็นทหารไปประจำการที่นั่น เรียนด้านศิลปะ โดยไม่เคยเรียนสายไอทีใด ๆในวัยหนุ่ม Brendan ย้ายตามแฟนสาวไปอยู่บราซิล และแม้ต่อมาไม่นานจะเลิกรากัน แต่ Brendan ก็ยังอยู่ทำงานต่อที่นั่น ทั้งงานกราฟิกดีไซน์ ออกแบบเว็บไซต์ ช่างภาพงานแต่งงาน และดีเจ เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพและเป็นค่าเครื่องบินกลับบ้านตั้งแต่ช่วงอยู่บราซิล จนถึงเมื่อกลับบ้านที่ไอร์แลนด์แล้ว ยามว่างของ Brendan ยุคนั้นใช้ไปกับการเล่นเกม โดยมีเกมโปรดเป็นเกมยิงซอมบี้ DayZ (“เดย์ ซี“) ซึ่งดัดแปลงมาจากเกมทหารสู้รบที่ชื่อ “ArmA 2″ อีกทีหนึ่ง
เมื่อ Brendan เล่นเกม DayZ ไปนาน ๆ สักพักเขาก็เห็นจุดอ่อนหลายอย่าง เช่นความคับแคบและซ้ำซากของฉากและตำแหน่งสิ่งของอาวุธต่าง ๆ เขาจึงอยากดัดแปลง (ทำ mod) ให้เกมนี้แตกต่างออกไปอีกแต่ความรู้และทักษะของ Brendan นั้นมีแต่ด้านกราฟิกกับออกแบบเว็บไซต์ เขาจึงต้องไปเสิร์ชหาความรู้การเขียนโค้ด แล้วทดลองเรียนรู้ไปด้วยตัวเอง โดยไม่มีผู้ช่วยใด ๆ และไม่มีรายได้ เพราะไม่ได้ทำเป็นธุรกิจ เพียงแต่คิดอยากเล่นเกมแบบไหนก็ลงมือทำไปด้วยตัวเองเท่านั้น
ซึ่ง “การ mod เกม” นี้ไม่ต้องใช้ความรู้และเวลามากมายเท่าการสร้างเกมใหม่เองจากความว่างเปล่า ดังนั้นเกมใหม่ดัดแปลงของ Brendan จึงสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว โดยสำเร็จในปี 2013 โดยใช้ชื่ออิง 2 เกมเดิมว่า “ArmA 2 mod DayZ: Battle Royale”นั่นคือเขาได้เติมคำว่า “Battle Royale” ต่อท้ายชื่อเกมเดิมที่เขานำมาดัดแปลงต่อ ซึ่งคำว่า Battle Royale นี้ก็ได้แรงบันดาลมาจากหนังญี่ปุ่นยุคปี 2000 ที่เนื้อเรื่องเกี่ยวกับเกมโชว์มหาโหดที่นำนักเรียนนับร้อยคนไปปล่อยไว้ในที่เดียวกัน แล้วให้ฆ่ากันจนกว่าจะเหลือ 1 คนสุดท้ายเป็นผู้ชนะ
และกติกาในเกมของ Brendan ก็นำมาจากหนังเรื่องนี้ และหนังเรื่อง Hunger Games ด้วย โดยเป็นเกมออนไลน์ ให้ผู้เล่น 100 คนกระโดดร่มลงในฉากเดียวกันแบบตัวเปล่าเปลือย ไม่มีอะไรติดตัวเลยแล้วจากนั้นค่อยเดินอย่างอิสระไปหาอาวุธเพื่อป้องกันตัว ต่อสู้ หรือแอบซ่อนได้ตามใจ ทำอย่างไรก็ได้ให้เหลือชีวิตรอดเป็นคนสุดท้ายตำแหน่งของอาวุธและสิ่งต่าง ๆ จะถูกสุ่มเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ รวมถึง “จุดเกิด” ของผู้เล่นก็จะถูกสุ่มเช่นกัน (ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นการกระโดดร่มลงมาในภายหลัง) เพื่อลดความได้เปรียบเสียเปรียบจากผู้ที่เล่นมาแล้วนาน ๆ จนจำฉากได้
กติกานี้ถือว่าค่อนข้างแปลกใหม่ในวงการเกมช่วงนั้น จนเกิดคำเรียกนวเกมใหม่นี้ว่า “เกมแนว Battle Royale” ตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งจะมีเกมอื่น ๆ มาแข่งขันด้วยอีกมาก ซึ่งเราจะกล่าวถึงต่อไปกลับไปที่ผลงานชิ้นแรก “ArmA 2 mod DayZ: Battle Royale” ของนาย Brendan Greene ที่เปิดตัววันแรก ๆ ก็มีคนดาวน์โหลดไปเล่นในคอมพิวเตอร์ของตัวเองกันมากถึงกว่า 1,000 คนต่อสัปดาห์ แล้วก็พุ่งทะยานต่อเนื่องจนมีคนเล่นพร้อมกันกว่า 7 หมื่นคนในเวลาไม่กี่เดือนของปี 2013 นั้นเลยBrendan Greene เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า … “เกมดัง ๆ หลายเกมในโลกมีจุดเริ่มจากการ mod คือการที่นักเล่นเกมทั่วไปอยากเพิ่มเติมแก้ไขให้เกมที่เล่นอยู่นั้นสนุกกว่าเดิม อย่างของผม ก็คือการทำให้เกม DayZ เข้าใจง่ายขึ้น และให้อิสระกับผู้เล่น”
ความสำเร็จของ “พับจี” ยุคแรกบนคอมพิวเตอร์
PUBG พับจี เปิดตัวรุ่นทดสอบ (early access) ให้ลองเล่นฟรีบางฉากในเดือนมีนาคม ปี 2017 แล้วได้รับความสนใจลองเล่นมากมายฉะนั้นต่อมาเมื่อวางขายจริงบนตลาดเกม Steam จึงทำยอดขายได้กว่า 5 แสนชุดในการเปิดขายแค่ 3 วันแรก เมื่อคูณกับราคาเกม 599 บาทช่วงนั้น เท่ากับว่าทำเงินได้มากถึงราว 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 350 ล้านบาท“พับจี” ยังกวาดรางวัลจากงานต่าง ๆ และสื่อใหญ่ ๆ มากมาย เช่น รางวัล “เกมพีซีแห่งปี 2017″ , “รางวัลจอยสติกทองคำ“ (Golden Joystick Awards), ฯลฯ ซึ่งปี 2017 ทำยอดขายทั้งปีได้กว่า 30 ล้านชุดทั่วโลก
เพียงปีแรก 2017 พับจีมีจำนวนผู้เล่นพร้อมกันกว่า 1 ล้านคนจากทั่วโลกเป็นเรื่องปกติ และต่อมาในปี 2018 ก็มีผู้เล่นพร้อมกันสูงถึงกว่า 3 ล้านคนเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งความสำเร็จนี้ทำให้บริษัทบลูโฮลถึงกับก่อตั้งบริษัทลูกที่มีชื่อว่า PUBG Corp ให้ Brendan กุมบังเหียนปรากฏการณ์ PubG ในช่วงนั้นทำให้มหาวิทยาลัยยูทาห์ถึงกับนำไปวิจัย แล้วสรุปว่าเป็นไปตามหลักจิตวิทยาใน “ทฤษฎีมาสโลว์“ คือในเกมมีการตอบสนองความต้องการของมนุษย์แทบครบทุกระดับ ไล่ตั้งแต่การเอาชีวิตรอดจากการโดดร่มลงมาตัวเปล่า จากนั้นออกค้นหาสะสมสิ่งของเพื่อความมั่นคงปลอดภัย และต่อสู้เอาชนะเพื่อความภูมิใจและการยอมรับในกลุ่มสังคม ฯลฯ
บทความแนะนำ